วันนี้ ( 13 พ.ย.66 ) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าในสัปดาห์ที่ผ่านมา​ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ​ กระทรวงการคลัง​ กระทรวงเกษตร​และ​สหกรณ์ และกระทรวงพลังงาน​ ภายใต้กิจกรรม​ "ขบวนการ​ รวมมิตรภารกิจคลายทุกข์ให้ประชาชน" โดยคิกออฟ​เริ่มต้นกิจกรรมฯ ที่เขตบางกะปิ และมีแผนที่จะกระจายไปอีกทั่วกรุงเทพมหานครปริมณฑล และนำไปสู่การขยายผลในพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศในอนาคต

สำหรับกิจกรรมหลัก อาทิ ฝึกอาชีพ เสริมทักษะสร้างรายได้โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้นโยบายของ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม การสร้างวินัยการเงิน เริ่มออม เปิดบัญชีธนาคาร เข้าถึงแหล่งเงินทุนตั้งต้นประกอบอาชีพ ปรึกษาการปรับโครงสร้างหนี้โดย ธนาคารออมสินธนาคารกรุงไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นธนาคารที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง โดยนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง การสนับสนุนแว่นสายตาสำหรับอ่านหนังสือ แก่ผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กระทรวงพลังงาน ภายใต้นโยบายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และสนับสนุนข้าวสารสำหรับผู้สูงอายุและประชาชนกลุ่มเปราะบางในชุมชนโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยกว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย​ โดนบรรยากาศงานมีความคึกคัก​ ได้การตอบรับจากประชาชนอย่างดีเยี่ยม

“….กิจกรรมนี้ไม่ได้มีแต่ตัวแทนจากกระทรวงต่างๆ เท่านั้น แต่มีภาคตัวแทนประชาชนอีกมากมายที่มาร่วมกิจกรรมด้วยเช่น บูธของทีมไรท์​ (Right​ Team) ที่เป็นการรวมตัวของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทำกิจกรรมสอบถามความคิดเห็นของประชาชนในหัวข้อว่า “คุณอยากเห็น ประเทศไทย เป็นแบบไหน” โดยผลโพลที่ได้ออกมาคือประชาชนต้องการให้ประเทศเดินหน้า พัฒนาในเรื่องความปลอดภัยในการดำเนินชีวิต ทั้งกฏหมายการใช้อาวุธปืน ยาเสพติดที่มีผลต่อเยาวชน และเศรษฐกิจความเป็นอยู่คุณภาพชีวิต

"... อยากให้เห็นกันว่า​ กิจกรรม "ขบวนการรวมมิตร​ ภารกิจคลายทุกข์ให้ประชาชน" นี้เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างของการร่วมมือกันอย่างเหนียวแน่นของทุกๆ​ กรม กระทรวง หน่วยงาน ต่างๆ ของรัฐบาลชุดนี้​ที่เน้นย้ำเรื่องการหาจุดร่วม​ สงวนจุดต่าง….” รัดเกล้า​ ย้ำ