นายกฯ ลุยอุดรฯ ตรวจโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่ง ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการเกษตร
29 ต.ค. 2566, 15:05
วันนี้ ( 29 ต.ค.66 ) เวลา 13.00 น. ณ โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่งพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่งพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางสุพร ตรีนรินทร์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) รักษาราชการแทนเลขาธิการ กปร. ร่วมการตรวจเยี่ยม ซึ่งนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายปริญญา คัชมาตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 5 พร้อมเจ้าหน้าที่ และประชาชน ให้การต้อนรับ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลได้เข้ามาบริหารจัดการเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในช่วงยังไม่ถึง 2 เดือนที่ผ่านมา ทุกคนคงเห็นว่านายกฯ ได้เดินทางไปต่างประเทศ ไปดูโครงการใหญ่ ๆ รถไฟความเร็วสูง แลนด์บริดจ์ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของประเทศ มามากมาย เรื่องนี้เป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐบาลให้ความสำคัญ แต่ก็ไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิดคิดว่ารัฐบาลนี้มัวแต่ดูแลเรื่องการลงทุน เรื่องไฮเทค เรื่องอุตสาหกรรมใหญ่ พี่น้องประชาชนหลายสิบล้านคนต้องพึ่งภาคเกษตรกรรม เรื่องไม่ท่วมไม่แล้ง ล้วนเป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญสูงสุด การที่รัฐบาลลงพื้นที่มาวันนี้ น่าจะเป็นที่ประจักษ์ดีว่าเราให้ความสำคัญเรื่องนี้ โครงการพระราชดำริ ซึ่งบริหารจัดการเรื่องไม่ท่วมไม่แล้ง ถือว่าเป็นโครงการที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในแต่ละปี เราสามารถเก็บกักได้แค่ 1 ใน 3 ที่เหลือถูกปล่อยลงไปหมด ตรงนี้ถือว่าเรายังสามารถปรับปรุงได้ โครงการเก็บกักน้ำที่นี่และอีกหลาย ๆ ที่ ถือว่าเป็นโครงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และอยากให้เกิดขึ้นเร็ว ๆ โดยไม่มีการล่าช้า ถ้าเราทำให้ไม่ท่วมไม่แล้ง ประกอบกับนโยบายรัฐบาลนี้ เปิดตลาดให้กับเกษตรกรไทย ตนเชื่อว่ารายได้ของเกษตรกรไทยจะเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวภายในเวลา 4 ปีข้างหน้า
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่งฯ ถือเป็นโครงการแม่แบบและเป็นโครงการตัวอย่างที่ในหลายพื้นที่จะนำไปปรับปรุงและนำไปใช้ หากติดขัดเรื่องงบประมาณ หรือความช่วยเหลือต่าง ๆ ขอให้แจ้งมายังรัฐบาล โดยรัฐบาลพร้อมยินดีให้การช่วยเหลือ และให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชนในขั้นพื้นฐาน ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลให้ความสำคัญ และต้องการผลักดันส่งเสริมให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่ง พร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้พระราชทานอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่ง เพื่อช่วยเหลือราษฎรซึ่งขาดแคลนน้ำ เพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตรให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และทรงรับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่งพร้อมระบบส่งน้ำ ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งพื้นที่รับประโยชน์ 1,600 ไร่ สำรองน้ำอุปโภค-บริโภค 798 ครัวเรือน คิดเป็นประชากร 3,740 คน บรรเทาปัญหาอุทกภัย โดยตัดยอดน้ำได้ 1,594,000 ลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 600 ไร่ โครงการดังกล่าวก่อสร้างตั้งแต่ปี 2565 - 2568 จากผลการดำเนินงาน ณ ปัจจุบันคิดเป็นร้อยละ 24 ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้