จากกรณีที่ นายกิลัด เออร์ดัน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ เปิดเผยว่า ตั้งแต่กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล มีการลักพาตัวประกันไประหว่าง 100 ถึง 150 คน โดยควบคุมตัวไว้ในหลายพื้นที่ของฉนวนกาซา ซึ่งมีทั้งผู้หญิงและเด็ก รวมถึงชาวต่างชาติอีกหลายคน ขณะที่สื่อในพื้นที่หลายแห่งยอมรับว่า ตัวเลขที่แท้จริงมีจำนวนมากกว่าที่มีการรายงานผ่านสื่อ เพราะยังมีผู้สูญหายอีกหลายคนที่ไม่สามารถตรวจสอบยืนยันได้ว่า ตกเป็นตัวประกันหรือเสียชีวิตแล้ว

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิก ทรงกล่าวถ้อยแถลงเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกัน และทรงมีความกังวลอย่างยิ่งต่อการที่อิสราเอลปิดล้อมฉนวนกาซา ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในอิสราเอลและปาเลสไตน์ ซึ่งมีผู้คนถูกสังหารจำนวนมาก และบาดเจ็บอีกหลายคน ทรงภาวนาให้แก่ครอบครัวเหล่านั้น และขอให้ปล่อยตัวประกันในทันที

ทรงมีรับสั่งด้วยว่า เป็นสิทธิ์ของผู้ที่ถูกโจมตี ในการที่จะป้องกันตนเอง แต่การปิดล้อมฉนวนกาซาที่มีชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่นั้น ก็คือการที่ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องตกเป็นเหยื่อ

ถ้อยแถลงของสมเด็จพระสันตะปาปาในประเด็นที่ระบุว่าอิสราเอลมีสิทธิ์ในการป้องกันตนเอง เกิดขึ้นหลังอิสราเอลกดดันทางการทูต โดยมีความเห็นว่า แถลงการณ์ฉบับก่อนหน้าของสมเด็จพระสันตะปาปายังไม่เพียงพอ นายราฟาเอล ชูตซ์ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำวาติกัน กล่าวว่า อิสราเอลเข้าใจว่าวาติกันต้องการสันติภาพ ทุกคนต้องการสันติภาพ แต่อิสราเอลต้องการที่จะได้ยินถ้อยคำที่เกี่ยวกับสิทธิ์ในการปกป้องตัวเอง