นายจรัญ คำเงิน รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ได้ประชุมติดตามการบริหารจัดการน้ำและสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ท้ายเขื่อนของ กฟผ. อย่างใกล้ชิด รวมถึงควบคุมดูแลและให้การสนับสนุนช่วยเหลือชุมชนท้ายน้ำอย่างเต็มที่ สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนของ กฟผ. ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2566 มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทุกแห่งรวมกัน 42,700 ล้าน ลบ.ม. หรือ 69% ของความจุเขื่อน น้ำใช้งานได้รวมทั้งสิ้น 19,655 ล้าน ลบ.ม. หรือ 51 % ของความจุเขื่อน ทั้งนี้ มีอ่างเก็บน้ำของเขื่อนที่ปริมาณน้ำมากจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เขื่อนน้ำพุง จ.สกลนคร และเขื่อนห้วยกุ่ม จ.ชัยภูมิ ซึ่งได้กำชับให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งบูรณาการบริหารจัดการน้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลดผลกระทบและบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่ประสบอุทกภัยที่เกิดขึ้น

ส่วนเขื่อนขนาดใหญ่ยังมีความจุรองรับน้ำได้อีกมากทั้งเขื่อนภูมิพล จ.ตาก เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี โดยเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ได้ปรับแผนลดการระบายน้ำเพื่อลดผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มและเป็นประโยชน์ต่อการกักเก็บน้ำต้นทุนไว้ใช้ในในช่วงฤดูแล้งปีหน้า ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำได้ทาง http://water.egat.co.th/ หรือแอปพลิเคชัน EGAT Water และ EGAT One

ที่ผ่านมา กฟผ. ได้ดำเนินการส่งมอบถุงยังชีพจำนวน 1,300 ชุด และน้ำดื่มกว่า 78,000 ขวด แก่พี่น้อง ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.สุโขทัย จ.ตาก และ จ.อุตรดิตถ์ รวมถึงสนับสนุนเครื่องจักรกลและรถบรรทุกทราย 6 ล้อ เพื่อจัดทำแนวป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบ